น้ำจิ่มซีฟูด6สูตร
น้ำจิ้มซีฟู้ดน้ำจิ้มอาหารทะเลสุดแซ่บสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดมีให้เลือกถึง6สูตร6สไตล์ตามชอบทำเองง่ายๆเสิร์ฟพร้อมอาหารทะเลปิ้งย่างหรือเมนูลวกจิ้มรับรองอร่อยเด็ดเกินห้ามใจ
-
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร1(สูตรสำหรับอาหารทะเลลวกจิ้ม)
---------------------------------------------------------------
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรนี้เหมาะกับอาหารทะเลแนวลวกจิ้มทีเด็ดอยู่ตรงที่มีความเผ็ดจี๊ดจนน้ำหูน้ำตาไหลส่วนผสมไม่เยอะแค่จับพริกขี้หนูมาผสมกับกระเทียมรากผักชีเกลือและน้ำตาลทรายที่ขาดไม่ได้คือน้ำมะนาวเสิร์ฟพร้อมอาหารทะเลลวกกินเพลินๆข้าวสวยไม่ต้องแค่นี้ก็อิ่มหนำสำราญใจแล้วค่ะ
-
ส่วนผสม
-
พริกขี้หนูสวน(สีเขียวผสมสีแดง)20เม็ด
พริกขี้หนูเม็ดใหญ่20เม็ด
กระเทียมไทยแกะเปลือก1/2ถ้วย
รากผักชี1ช้อนโต๊ะ
เกลือ4ช้อนชา
น้ำตาลทราย7ช้อนชา
น้ำมะนาว1/2ถ้วย
น้ำต้มสุก1/2ถ้วย
-
วิธีทำ
-
1.ใส่พริกขี้หนูทั้งหมดลงในเครื่องปั่นตามด้วยกระเทียมรากผักชีเกลือน้ำตาลทรายและน้ำมะนาวปั่นให้เข้ากันพอหยาบ
-
2.ใส่น้ำต้มสุกลงไปคนผสมให้เข้ากันชิมรสตามชอบตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
-
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร2(สูตรใช้ครกโขลก)
-----------------------------------------------
น้ำจิ้มซีฟู้ดเมนูน้ำจิ้มที่มีความเผ็ดระดับกลางเหมาะสำหรับคนชอบกระเทียมมากๆเพราะได้ลิ้มรสชาติกระเทียมไปเต็มๆและยังเหมาะกับครัวเรือนที่ไม่มีเครื่องปั่นถ้าได้จิ้มปลาหมึกลวกหน่อยรับรองเคี้ยวเพลินจนวางไม่ลงเชียวล่ะ
-
ส่วนผสม
-
พริกขี้หนูสวน10เม็ด
กระเทียมไทย10กลีบ
รากผักชีโขลกละเอียด2ราก
น้ำปลา6ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว6ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย4ช้อนชา
-
วิธีทำ
-
1.โขลกพริกขี้หนูสวนกระเทียมไทยและรากผักชีเข้าด้วยกันพอหยาบๆ
-
2.เติมน้ำปลาน้ำมะนาวและน้ำตาลทรายคนให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากัน
-
3.ตักใส่ภาชนะที่มีฝาปิดแช่ไว้ในตู้เย็นสามารถเก็บได้นาน3วัน
-
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร3(สูตรใส่ผักชีและน้ำตาลปี๊บ)
----------------------------------------------------------
อาหารทะเลมื้อไหนๆก็ต้องมีน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดสูตรนี้ใช้ความหวานละมุนจากน้ำตาลปี๊บและใส่เกลือแทนน้ำปลาปรุงออกมาครบรสทั้งเผ็ดเค็มเปรี้ยวและหวานเวลาจิ้มกับกุ้งเผาจะได้ลิ้มรสผักชีหอมๆอีกด้วย
-
ส่วนผสม
-
น้ำตาลปี๊บ500กรัม
เกลือ2ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อน31/2ถ้วย
น้ำมะนาว4ถ้วย
พริกขี้หนู200กรัม
กระเทียมไทย200กรัม
ผักชี200กรัม
-
วิธีทำ
-
1.ใส่น้ำตาลปี๊บลงในอ่างผสมตามด้วยเกลือและน้ำร้อนคนให้เข้ากันจนให้น้ำตาลปี๊บละลายเป็นน้ำจากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน
-
2.เทส่วนผสมน้ำที่ผสมไว้ลงในเครื่องปั่นตามด้วยพริกขี้หนูกระเทียมและผักชีปั่นให้เข้ากันตามความละเอียดที่ต้องการตักใส่ขวดโหลแก้วหรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
-
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร4(สูตรโบราณ)
-----------------------------------------
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรโบราณใส่พริกขี้หนูลงไปตามชอบใส่น้ำส้มสายชูลงไปแทนน้ำมะนาวไม่ใส่น้ำปลาแต่ใส่เกลือลงไปใช้การโขลกพอหยาบทำให้ได้ลิ้มรสเนื้อน้ำจิ้มจริงๆแถมสูตรนี้ยังสามารถนำไปจิ้มกินคู่กับไก่ต้มน้ำปลาได้อีกด้วยนะคะ
-
ส่วนผสม
-
พริกขี้หนู1กำมือ
กระเทียม5กลีบ
เกลือป่นปลายช้อน
น้ำส้มสายชู1ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ1ช้อนชา
-
วิธีทำ
-
1.โขลกพริกขี้หนูกระเทียมและเกลือป่นพอหยาบ
-
2.เติมน้ำส้มสายชูและน้ำตาลปี๊บลงไปคนผสมให้ละลายเข้ากันชิมรสตามชอบ
-
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร5(สูตรใส่ใบโหระพา)
------------------------------------------------
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรนี้จะมีสีเขียวจัดเพราะจะใส่พริกขี้หนูเขียวอย่างเดียวและเพิ่มความเขียวขจียิ่งขึ้นด้วยใบโหระพาเพิ่มความเค็มด้วยน้ำปลารสชาติจะออกเปรี้ยวและหวานนำจากน้ำเชื่อมรสเผ็ดไม่มากเหมาะสำหรับคนไม่ทานเผ็ดแถมสีสันของน้ำจิ้มยังเป็นสีเขียวดูแล้วสบายตาอีกด้วย
-
ส่วนผสม
-
พริกขี้หนูสีเขียว2ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยสับ1ช้อนโต๊ะ
รากผักชีสับ2ต้น
ใบโหระพา1/2ถ้วย
น้ำเชื่อม3ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา2ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว3ช้อนโต๊ะ
-
วิธีทำ
-
1.ใส่พริกขี้หนูกระเทียมสับรากผักชีสับใบโหระพาน้ำเชื่อมน้ำปลาและน้ำมะนาวลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นทุกอย่างให้ละเอียดและเข้ากัน
-
2.ตักใส่ภาชนะมีฝาปิดสามารถเก็บไว้ได้3วัน
-
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร6(สูตรใส่สับปะรด)
----------------------------------------
น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรนี้เพิ่มความแปลกแต่แฝงไปด้วยรสชาติที่กลมกล่อมด้วยการใส่สับปะรดลงไปผสมกับพริกขี้หนูกระเทียมน้ำตาลทรายเพิ่มความเปรี้ยวจากน้ำมะนาวและน้ำส้มสายชูและมีรสเค็มจากเกลือมีกลิ่นหอมอ่อนๆจากรากผักชีถ้าอยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรต้องลอง
-
ส่วนผสม
-
เนื้อสับปะรด1ถ้วย
กระเทียม1/2ถ้วย
พริกขี้หนูสีแดง1กำมือ
รากผักชี5ราก
น้ำตาลทราย1/2ถ้วย
น้ำส้มสายชู1/2ถ้วย
น้ำมะนาว1/4ถ้วย
น้ำปลา1/2ถ้วย
เกลือ20กรัม
-
วิธีทำ
-
นำทุกอย่างใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้แล้วปั่นรวมกันให้ละเอียดตามชอบ
-
ถ้าอยากจะให้น้ำจิ่มสีออกมาเป็นสีเขียวล้วนก็ใส่แต่พริกขี้หนูเขียว
ถ้าอยากจะให้ออกมาเป็นสีแดงล้วนก็ใส่แต่พริกขี้หนูแดง
ขอคุณข้อมูลจาก https://cooking.kapook.com/view127999.html