12 สูตรน้ำสมุนไพรยอดฮิต ทำขายสร้างรายได้
เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ น้ำสมุนไพร หรือน้ำผลไม้ สามารถทำขายเป็นอาชิพเสริมหรืออาชีพหลักได้โดยเฉพาะน้ำสมุนไพรนั้นลงทุนน้อยกำไรงามวิธีทำก็แสนง่ายไม่ยุ่งยากทำบรรจุขวดขายยิ่งปัจจุบันคนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นจึงเป็นที่ต้องการของตลาดค่อนข้างมากน้ำสมุนไพรนั้นหากทำดีๆรสชาติอร่อยๆขายดีแน่นอนวันนี้เรานำ12สูตรน้ำดื่มสมุนไพรมาแนะนำรับรองอร่อยสดชื่นติดใจเมื่อได้ลิ้มลอง…..
1.น้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน
น้ำกระเจี๊ยบบรรจุขวดทั่วไปดื่มแล้วชื่นใจแต่ถ้าเพิ่มพุทราจีนลงไปหน่อยจะทำให้มีความหวานหอมกลมกล่อมและมีประโยชน์มากขึ้น
ส่วนผสมน้ำกระเจี๊ยบ
น้ำกระเจี๊ยบบรรจุขวดทั่วไปดื่มแล้วชื่นใจแต่ถ้าเพิ่มพุทราจีนลงไปหน่อยจะทำให้มีความหวานหอมกลมกล่อมและมีประโยชน์มากขึ้น
ส่วนผสมน้ำกระเจี๊ยบ
- ดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง2กำมือ
- พุทราจีน2กำมือ
- น้ำ3ลิตร
- เกลือป่น2ช้อนชา
- น้ำตาลทราย1ถ้วย
- ล้างดอกกระเจี๊ยบแดงแห้งและพุทราจีนในน้ำสะอาดเอาเศษฝุ่นออก(อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร)
- ต้มน้ำจนเมื่อน้ำเดือดจัดแล้วจึงใส่กระเจี๊ยบกับพุทราจีนลงไปต้มปิดฝาแต่ยังคงไฟร้อนไว้ประมาณ5นาทีจากนั้นหรี่ไฟลงให้ร้อนปานกลางต้มทิ้งไว้อีก15นาทีโดยปิดฝาไว้ตลอดเวลา(เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี)
- เสร็จแล้วค่อยๆเทน้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไปคนผสมให้ละลายในปริมาณที่ชิมแล้วออกหวานเล็กน้อยหรือรสตสมชอบและไม่มีรสขื่นเท่านี้ก็ใช้ได้
- กรองน้ำกระเจี๊ยบพุทราจีนด้วยผ้าขาวบางใส่ลงในหม้อสเตนเลสอีกใบเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยพักให้น้ำสมุนไพรเย็นตัวพอที่จะกรอกในขวดพลาสติกขนาด200ซีซีได้(ที่จำหน่ายขั้นต่ำขวดละ10บาท
2.น้ำเสาวรส
น้ำเสาวรสเอาใจคนรักสุขภาพเชื่อเถอะว่าต้องขายดีแน่นอนมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวสูตรจากนิตยสารแม่บ้าน
ส่วนผสมน้ำเสาวรส
•เนื้อเสาวรส2กิโลกรัม
•น้ำเปล่า2ลิตร
•น้ำตาลทราย800กรัม
•เกลือป่นหยาบ2ช้อนชา
วิธีทำน้ำเสาวรส
1.ใส่เนื้อเสาวรสและน้ำเปล่าลงในโถปั่นน้ำผลไม้ปั่นจนละเอียดจากนั้นเทใส่หม้อ
2.ยกขึ้นตั้งไฟใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่นคนจนส่วนผสมเดือดยกลงกรองผ่านกระชอนหรือผ้าขาวบางรอจนอุ่นหรือเย็นบรรจุใส่ขวดพร้อมดื่ม
3.น้ำหล่อฮั้งก้วย
น้ำหล่อฮั้งก้วยน้ำสมุนไพรขวดสุดฮิตประจำหน้าร้อนต้องสูตรนี้ใส่ดอกเก๊กฮวยเพิ่มความหอมด้วยวิธีทำไม่ยากเตรียมขวดให้พร้อมต้มเสร็จรอให้เย็นแล้วบรรจุขวด
ส่วนผสมน้ำหล่อฮั้งก้วย
4.น้ำจับเลี้ยง
น้ำจับเลี้ยงดื่มเมื่อไรสดชื่นทุกครั้งยิ่งอากาศร้อนแบบนี้เป็นจังหวะที่ดีอย่างยิ่งเลยค่ะทำใส่ขวดขายซะเลยเงินจงมา…
ส่วนผสมน้ำจับเลี้ยง
น้ำหล่อฮั้งก้วยน้ำสมุนไพรขวดสุดฮิตประจำหน้าร้อนต้องสูตรนี้ใส่ดอกเก๊กฮวยเพิ่มความหอมด้วยวิธีทำไม่ยากเตรียมขวดให้พร้อมต้มเสร็จรอให้เย็นแล้วบรรจุขวด
ส่วนผสมน้ำหล่อฮั้งก้วย
- หล่อฮั้งก้วย4-5ผล
- น้ำเปล่า3ลิตร
- ดอกเก๊กฮวยตากแห้ง2กำมือ(ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- น้ำตาลทราย(ตามชอบ)
- ล้างผลหล่อฮั้งก้วยให้สะอาดแล้วบิให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงในหม้อแล้วเทน้ำเปล่าลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ30นาที
- นำหม้อที่แช่หล่อฮั้งก้วยขึ้นตั้งไฟอ่อนใส่ดอกเก๊กฮวยตากแห้งลงไปเคี่ยวไปเรื่อยๆประมาณ30นาทีจากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไป(ปริมาณตามชอบ)ชิมรสพอครบเวลาปิดไฟทิ้งไว้ให้เย็นเล็กน้อย
- นำน้ำหล่อฮั้งก้วยไปกรองผ่านตะแกรงรอจนอุ่นหรือเย็นบรรจุใส่ขวดพร้อมดื่
4.น้ำจับเลี้ยง
น้ำจับเลี้ยงดื่มเมื่อไรสดชื่นทุกครั้งยิ่งอากาศร้อนแบบนี้เป็นจังหวะที่ดีอย่างยิ่งเลยค่ะทำใส่ขวดขายซะเลยเงินจงมา…
ส่วนผสมน้ำจับเลี้ยง
- ชุดจับเลี้ยงสำเร็จรูป(50-70กรัม)จำนวน1ห่อ
- น้ำ2ลิตร
- น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลทรายแดง(ตามชอบ)
- ใส่เครื่องจับเลี้ยงลงในหม้อตามด้วยน้ำต้มไฟอ่อนจนเดือดและน้ำเปลี่ยนสีประมาณ20นาทียกลงจากเตากรองด้วยผ้าขาวบางเอาเฉพาะน้ำเทกลับใส่หม้อนำขึ้นตั้งไฟ
- ใส่น้ำตาลทรายคนผสมให้เข้ากันต้มจนเดือดยกลงจากเตารอจนอุ่นหรือเย็นบรรจุใส่ขวดพร้อมดื่ม
5.น้ำเก๊กฮวย
น้ำเก๊กฮวยกลิ่นหอมและดื่มง่ายสูตรนี้มีความหอมจากกลิ่นใบเตยด้วยทำง่ายๆรับรองได้กำไรดีทีเดียว
ส่วนผสมน้ำเก๊กฮวย
- •ดอกเก๊กฮวย1กำมือ
- •น้ำ2ลิตร
- •น้ำตาลทราย500กรัม
- •ใบเตย10ใบ
- ต้มน้ำใส่ใบเตยลงไปรอจนเดือดกับใบเตยจนเดือดใส่ดอกเก๊กฮวยลงไปเคี่ยวสักพัก
- ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลายรอจนเดือดอีกครั้งปิดไฟพักไว้จนเย็น
- พอน้ำเก๊กฮวยเริ่มอุ่นยกลงกรองกับผ้าขาวบาง(***ระหว่างแช่ดอกเก็กฮวยห้ามคนเด็ดขาดจะทำให้ขม***)
- บรรจุใส่ขวดพร้อมดื่ม
6.น้ำดอกคำฝอย
น้ำดอกคำฝอยสรรพคุณแจ่มแต่หาดื่มยากเหมือนกันนะคะลองทำเป็นน้ำสมุนไพรขวดขายสิรับรองขายดิบขายดีสูตรนี้นอกจากใส่ดอกคำฝอยลงไปต้มกับน้ำแล้วยังใส่ดอกเก๊กฮวยเพิ่มกลิ่นหอมอีกด้วยเพิ่มความหวานจากน้ำเชื่อมอีกนิดลูกค้าดื่มต้องติดใจแน่นอน
ส่วนผสมน้ำดอกคำฝอย
- น้ำ2ลิตร
- ดอกคำฝอยแห้ง4ช้อนโต๊ะ
- ดอกเก๊กฮวยแห้ง1กำมือ
- น้ำตาลทราย(ตามชอบ)
- ใส่น้ำดอกคำฝอยและดอกเก๊กฮวยลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟแรงต้มจนเดือดและน้ำเริ่มเปลี่ยนสี
- ลดไฟอ่อนลงเติมน้ำตาลทรายลงไปคนผสมให้ละลายชิมรสตามชอบต้มต่ออีกสักครู่
- ยกลงจากเตากรองเอากากออกรอจนอุ่นตักใส่ขวดพร้อมดื่ม
7.น้ำมะตูม
ใครสนใจอยากได้สูตรน้ำมะตูมเข้ามาจดสูตรได้เลยค่ะเริ่มจากเอามะตูมแห้งไปย่างไฟจนหอมแล้วค่อยเอาไปต้มกับน้ำเปล่าค่ะสูตรนี้ใส่น้ำตาลทรายแดงเพิ่มสีสันและรสหวานกลมกล่อมถ้าพรุ่งนี้เช้าจะต้มน้ำสมุนไพรขวดขายไปซื้อมะตูมแห้งไว้รอเลย
ส่วนผสมน้ำมะตูม
- มะตูมแห้ง10ชิ้น
- น้ำ2ลิตร
- น้ำตาลทรายแดง100กรัม
- นำมะตูมแห้งไปย่างไฟหรือคั่วในกระทะจนมีกลิ่นหอมเตรียมไว้
- ใส่น้ำลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟปานกลางใส่มะตูมที่ย่างไฟลงไปต้มจนเดือดและน้ำเปลี่ยนสีหรือนานประมาณ30นาที
- จากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปคนผสมจนน้ำตาลละลายหมดชิมรส
- ยกลงจากเตากรองเอากากออกพักทิ้งไว้จนเย็นบรรจุใส่ขวดพร้อมดื่ม
8.น้ำใบบัวบก
น้ำใบบัวบกทั่วไปอาจมีกลิ่นเหม็นเขียวแต่ขอบอกว่าถ้าใครได้ทำน้ำใบบัวบกสูตรนี้รับรองหอมอร่อยแน่นอนเพราะใส่ใบเตยลงไปเพิ่มความหอมและได้ความหวานจากน้ำเชื่อมใครได้ดื่มต้องติดใจจ้า
ส่วนผสมน้ำใบบัวบก
- ใบบัวบก1กิโลกรัมถึง1.5กิโลกรัม
- น้ำ12ถ้วย
- ใบเตย6ใบ
- น้ำเชื่อม6ถ้วย
- ล้างใบบัวบกให้สะอาดสะเด็ดน้ำจากนั้นหั่นเป็นท่อนสั้นๆเตรียมไว้
- ต้มน้ำกับใบเตยจนเดือดพักทิ้งไว้จนน้ำอุ่น
- แบ่งใบบัวบกเป็น6ส่วนทยอยใส่ลงในเครื่องปั่นตามด้วยน้ำต้มสุกที่อุ่นแล้ว1ถ้วยลงปั่นจนละเอียดเป็นน้ำทำซ้ำจนหมด
- ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบางเอาแต่เฉพาะน้ำ
- ใส่น้ำเชื่อมลงในน้ำใบบัวบกคนผสมให้เข้ากันพักทิ้งไว้จนเย็นบรรจุใส่ขวดพร้อมดื่ม
9.น้ำฟักข้าว
ปิดท้ายกันด้วยสูตรน้ำฟักข้าวสีส้มสรรพคุณเลอค่าที่หาดื่มยากนักใครสนใจทำเป็นน้ำสมุนไพรขวดขายต้องได้รับการตอบรับดีเกินคาดแน่นอน
ส่วนผสมน้ำฟักข้าว
- ฟักข้าว2ลูก
- น้ำต้มสุก6ถ้วย
- เกลือป่นเล็กน้อย
- น้ำเชื่อมตามชอบ
วิธีทำน้ำฟักข้าว
- ผ่าครึ่งลูกฟักข้าวคว้านเอาเม็ดออกจากนั้นปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- ใส่เนื้อฟักข้าวลงในเครื่องปั่นตามด้วยน้ำต้มสุกปั่นจนละเอียดเข้ากันดีเติมน้ำเชื่อมและเกลือป่นตามชอบคนผสมให้เข้ากันพักทิ้งไว้จนเย็นบรรจุใส่ขวดพร้อมดื่ม
10.น้ำอัญชันมะนาว
ดอกอัญชันนอกจากเอาไปทำเป็นสีใส่ขนมไทยได้แล้วยังเอามาทำเครื่องดื่มน้ำอัญชันมะนาวรสชาติเปรี้ยวหวานชื่นใจได้อีกด้วยใครสนใจไปเด็ดดอกอัญชันหน้าบ้านรอไว้เลยแค่นี้ก็พร้อมต้มน้ำสมุนไพรขวดขายกันแล้ว
ส่วนผสมน้ำอัญชันมะนาว
- น้ำ2ถ้วยตวง
- ดอกอัญชันสด100กรัม
- น้ำเชื่อม4ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง2ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว(ตามชอบ)
- ใส่น้ำลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดใส่ดอกอัญชันลงต้มปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ2-3นาทียกลงจากเตายกลงกรองดอกอัญชันออกเอาเฉพาะน้ำเตรียมไว้
- ผสมน้ำดอกอัญชันกับน้ำเชื่อมน้ำผึ้งและน้ำมะนาวคนผสมให้เข้ากันพักทิ้งไว้จนเย็นบรรจุใส่ขวดพร้อมดื่ม
11.น้ำอัญชัญใบเตย
ส่วนผสม
- ดอกอัญชัน1กำมือ
- ใบเตย3-4ต้น
- น้ำมะนาว
- เกลือป่นเสริมไอโอดีน
- นำดอกอัญชันมาเด็ดขั้วออกและล้างให้สะอาดเตรียมไว้และเตรียมใบเตย3-4ต้นล้างให้สะอาดและหั่นครึ่งเตรียมไว้
- ต้มน้ำสะอาดในหม้อสเตนเลสขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง8.5นิ้วและสูง9นิ้วต้มจนน้ำเดือดจัดเมื่อน้ำเดือดจัดแล้วใส่อัญชันและใบเตยลงไปปิดฝาแต่ยังคงไฟร้อนไว้ประมาณ5นาทีจากนั้นหรี่ไฟลงให้ร้อนปานกลางปิดฝาไว้ตลอดเวลาต้มทิ้งไว้อีก15นาที
- เสร็จแล้วบีบมะนาวและเกลือลงไปเล็กน้อยเพื่อให้สีจากดอกอัญชันออกมามากๆแล้วค่อยๆเทน้ำตาลทรายใส่ลงไปปริมาณที่ชิมแล้วออกหวานเล็กน้อยและไม่มีรสเฝื่อน
- กรองน้ำด้วยผ้าขาวบางใส่น้ำอัญชันลงในหม้อสเตนเลสอีกใบเท่านี้ก็ใช้ได้พักให้น้ำสมุนไพรเย็นตัวพอที่จะกรอกในขวดพลาสติกขนาด200ซีซีได้
12.น้ำตะไคร้ใบเตย
น้ำตะไคร้ใบเตยนั้นมีสรรพคุณช่วยในการลดไขมันในเส้นเลือดบำรุงธาตุไฟขับลมในลำไส้แก้ท้องอืดช่วยลดไขมันในเส้นเลือดช่วยบำรุงหัวใจรสเย็นสบายให้กลิ่นหอมสดชื่น
ส่วนผสม
- ตะไคร้สด6-7ต้น
- ใบเตย3-4ต้น
- น้ำตาลทรายแดง
- นำตะไคร้สดมาตัดใบออกล้างให้สะอาดแล้วทุบด้านหัวให้พอแตกเตรียมไว้และเตรียมใบเตยล้างให้สะอาดแล้วหั่นครึ่งเตรียมไว้
- ต้มน้ำสะอาดในหม้อสเตนเลสขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง8.5นิ้วและสูง9นิ้วต้มจนน้ำเดือดจัดเมื่อน้ำเดือดจัดแล้วใส่ตะไคร้และใบเตยลงไปปิดฝาแต่ยังคงไฟร้อนไว้ประมาณ5นาทีจากนั้นหรี่ไฟลงให้ร้อนปานกลางต้มทิ้งไว้อีก15นาที…โดยปิดฝาตลอดเวลา
- เสร็จแล้วค่อยๆเทน้ำตาลทรายใส่ลงไปในปริมาณที่ชิมแล้วออกหวานเล็กน้อยและไม่มีรสเฝื่อน
- กรองน้ำสมุนไพรด้วยผ้าขาวบางลงในหม้อสเตนเลสอีกใบแล้วพักให้เย็นตัวพอที่จะกรอกในขวดพลาสติกขนาด200ซีซีเท่านี้ก็เสร็จแล้ว
- การเลือกสมุนไพร การเลือกสมุนไพรที่จะนำมาทำน้ำสมุนไพรต้องคำนึงถึงสมุนไพรที่สดถ้าเป็นสมุนไพรที่ต้องทำให้แห้งควรเลือกสมุนไพรที่ใหม่สะอาดดูลักษณะสีกลิ่นดูว่ามีเชื้อราหรือไม่สมุนไพรที่สดใหม่ช่วยให้ได้คุณค่าทางโภชนาการสูงสีสันน่ารับประทาน
- ความสะอาด ทั้งสมุนไพรและภาชนะที่ใช้ต้องสะอาดป้องกันการปนเปื้อนเชื้อถ้าไม่สะอาดอาจทำให้ผู้ดื่มน้ำสมุนไพรท้องเสียและยังทำให้สมุนไพรเก็บไม่ได้นานเท่าที่ควร
- ภาชนะที่ใช้ ภาชนะที่ต้มควรจะเป็นหม้อเคลือบไม่ควรใช้หม้ออลูมิเนียมเพราะอาจทำให้กรดที่อยู่ในสมุนไพรกัดภาชนะถ้าเป็นหม้อหรือกะทะทองเหลืองจะทำให้รสของน้ำสมุนไพรเปลี่ยนไปนอกจากนี้การที่เราดื่มน้ำสมุนไพรที่มีสารโลหะหนักผสมอยู่อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้สำหรับภาชนะที่บรรจุควรจะเป็นขวดแก้วจะสะดวกในการนึ่งและน้ำสมุนไพรจะไม่ทำปฏิกิริยากับขวดแก้วภาชนะที่เป็นแก้วยังดูใสสะอาดน่าดื่มยิ่งขึ้น
- เทคนิคของการที่ทำให้น้ำสมุนไพรอยู่ได้นานถึง7วัน โดยไม่ต้องใส่สารกันบูดคือระหว่างที่รอให้น้ำสมุนไพรเย็นตัวนั้นให้นำหม้อน้ำสมุนไพรนี้ใส่ลงในกะละมังที่มีน้ำเย็นอยู่วิธีนี้จะทำให้น้ำสมุนไพรอยู่ได้นานขึ้น
Credit:chaoprayanews.com
www.msn.com
เมนูอื่นๆที่น่าสนใจ