ขึ้นชื่อว่าอาหารประเภทยำของไทยรสชาติไม่แพ้ชาติใดในโลก
ยำของไทยมีมากมายหลากหลายชนิดเรียกตามวัตถุดิบที่มียำขาไก่ยำวุ้นเส้นยำปลาหมึกยำรวมมิตรและยำหอยแครงหรือถ้าจะเรียกให้เพราะคือหอยแครงทรงเครื่อง
ยำทุกชนิดที่กล่าวมาสิ่งที่ขาดไม่ได้คือพริกขี้หนูมะนาวน้ำปลาตะไคร้ใบมะกรูดเพื่อเพิ่มความหอมอาหารส่วนใหญ่วัตถุดิบหลักจะต้องสดสะอาดเพื่อไม่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ
วันนี้คอลัมน์“มันมากับอาหาร”ขอยกเรื่องหอยแครงทรงเครื่องขึ้นมาเป็นพระเอก
หอยแครงเป็นหอยสองฝาพบมากในพื้นที่เป็นดินโคลนทรายบริเวณปากแม่น้ำในตัวหอยมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเช่นแคลเซียมฟอสฟอรัสธาตุเหล็กวิตามินเอแต่ต้องรับประทานสุกเพราะการรับประทานหอยดิบร่างกายอาจเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อก่อโรควิบริโอพาราฮิโมไลติคัสที่มักพบปนเปื้อนในหอยแครงได้
เชื้อชนิดนี้มักพบปนเปื้อนตามชายฝั่งทะเลในช่วงฤดูที่มีอากาศอบอุ่นจะพบเชื้อนี้ได้ทั่วไปในน้ำทะเลและอาหารทะเลเช่นกุ้งหอยปูปลาและจะพบได้ในอาหารทะเลดิบที่ผ่านการให้ความร้อนไม่เพียงพอ
อันตรายของเชื้อชนิดนี้ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษและเป็นสาเหตุของโรคลำไส้อักเสบท้องเสียเป็นตะคริวในช่องท้องมีอาการวิงเวียนอาเจียนปวดหัวมีไข้หนาวสั่นบางรายอาจต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อเป็นการการันตีเรื่องความปลอดภัยของอาหาร
สถาบันอาหารจึงทำการสุ่มตัวอย่างหอยแครงทรงเครื่องจำนวน5ตัวอย่างในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเพื่อนำมาวิเคราะห์การปนเปื้อนของเชื้อวิบริโอพาราฮิโมไลติคัส
ผลปรากฏว่าทุกตัวอย่างไม่พบการปนเปื้อน
แต่อย่าชะล่าใจจนเกินไปทางที่ดีควรทานหอยแครงที่ปรุงสุกไม่ควรทานแบบสุกๆดิบๆเพื่อความสบายใจปลอดภัยและสบายท้อง.