เผือกกวน วิธีทำขนมไทยรสหวานมัน อร่อยทำง่ายจนต้องบอกต่อ
เมนูเผือกกวน ขนมไทยที่จะกินเพียวๆก็อร่อยหรือเอาไปทำเป็นไส้ขนมเปี๊ยะหรือไส้ซาลาเปาก็เจิดสามารถทำเองง่ายๆที่บ้านรสชาติหวานมันกำลังดีกินได้ทุกเพศทุกวัยใครสนใจมาเข้าครัวกันเลยดีกว่า
ใครชอบกินเมนูเผือกบ้างคะไม่ว่าจะเป็นเผือกนึ่งเผือกทอดหรือข้าวอบเผือกถ้าหากว่าเริ่มเบื่อกันแล้วลองมาแปรรูปเผือกเป็นขนมไทยสุดหวานฉ่ำและเก็บได้นานด้วยกันดีกว่าขอนำเสนอวิธีทำเผือกกวนสูตรจากคุณRin'sCookbook(#Rinscookbook) จับเผือกมากวนกับหัวกะทิและใบเตยปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บน้ำตาลทรายและเกลือป่นแม้ว่าต้องใช้เรี่ยวแรงและเวลาในการกวนเสียหน่อยแต่ผลลัพธ์ที่ได้อร่อยคุ้มมากๆเลยจ้า
ส่วนผสมเผือกกวน
เผือกหั่นเป็นชิ้น500กรัม(หั่นขนาดเท่ากันจะได้สุกพร้อมกัน)
หัวกะทิ2ถ้วย(ถ้าคั้นกะทิเองควรใช้น้ำลอยดอกมะลิในการคั้นเพราะจะทำให้กะทิมีกลิ่นหอมมากขึ้น)
ใบเตย
น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลปึก1/4ถ้วย
น้ำตาลทราย11/4ถ้วย
เกลือป่น1/4ช้อนชา
วิธีทำเผือกกวน
1.ใส่เผือกลงไปในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือดพล่านใช้เวลานึ่งประมาณ30-35นาที(แล้วแต่ปริมาณของเผือก)
2.ใส่หัวกะทิและใบเตยลงไปในหม้อ นำไปต้มด้วยไฟกลางอ่อนรอจนเดือดพล่านและมีกลิ่นของใบเตยออกมาพอได้กลิ่นหอมแล้วตักใบเตยออก
3.ใส่น้ำตาลปี๊บและน้ำตาลทรายลงไปตามด้วยเกลือป่นคนให้เข้ากันแล้วลดเป็นไฟอ่อนคนจนกว่าทุกอย่างจะละลายเข้ากันเตรียมไว้
4.นำเผือกใส่กระทะ(แนะนำให้ใช้กระทะเทฟลอน)บดเผือกด้วยที่กดมันฝรั่งหรือช้อนส้อมให้ละเอียด(ยังไม่ต้องเปิดเตา)
5.พอเผือกละเอียดแล้วใส่ส่วนผสมกะทิลงไปคนให้เข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
6.เปิดเตาใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อนแล้วเริ่มกวนเผือกไปเรื่อยๆใช้เวลาประมาณ10-12นาทีหรือจนแห้งและล่อนไม่ติดกระทะและมีลักษณะเป็นก้อนและถ้าจะเอาไปทำเป็นไส้ขนมให้ใช้เวลากวนประมาณ7นาทีพอเพราะส่วนผสมค่อนข้างจะเหลวตัวหน่อย
7.เมื่อกวนไปเรื่อยๆจะสังเกตเห็นว่าเผือกจะเริ่มแห้งตัวลงแล้วอย่ากวนจนแข็งตัวเกินไปเพราะเวลาเย็นลงแล้วจะแข็งตัวมากขึ้น
8.นำเผือกกวนมาใส่ถาดหรือภาชนะที่ไม่ติด
9.ทิ้งเผือกกวนไว้ให้เย็นสนิทจากนั้นนำมาตัดเป็นชิ้นๆหรือกดเป็นลายต่างๆตามชอบพร้อมเสิร์ฟ
แจ่มว้าวกันเลยทีเดียวหลังจากกำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับเผือกสองลูกที่เหลือในตู้กับข้าวดีเหมือนฟ้าได้นำทางด้วยการส่งวิธีทำเผือกกวนมาให้แล้วจะปฏิเสธได้อย่างไรทำเสร็จแล้วเพื่อนๆใช้พิมพ์รูปการ์ตูนน่ารักๆกดออกมาเสิร์ฟเก๋ๆหรือจะเอาไปทำเป็นไส้ของขนมต่างๆก็ได้นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
Rin'sCookbook(#Rinscookbook) และ เฟซบุ๊กRinSilpachai
ใครชอบกินเมนูเผือกบ้างคะไม่ว่าจะเป็นเผือกนึ่งเผือกทอดหรือข้าวอบเผือกถ้าหากว่าเริ่มเบื่อกันแล้วลองมาแปรรูปเผือกเป็นขนมไทยสุดหวานฉ่ำและเก็บได้นานด้วยกันดีกว่าขอนำเสนอวิธีทำเผือกกวนสูตรจากคุณRin'sCookbook(#Rinscookbook) จับเผือกมากวนกับหัวกะทิและใบเตยปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บน้ำตาลทรายและเกลือป่นแม้ว่าต้องใช้เรี่ยวแรงและเวลาในการกวนเสียหน่อยแต่ผลลัพธ์ที่ได้อร่อยคุ้มมากๆเลยจ้า
ส่วนผสมเผือกกวน
เผือกหั่นเป็นชิ้น500กรัม(หั่นขนาดเท่ากันจะได้สุกพร้อมกัน)
หัวกะทิ2ถ้วย(ถ้าคั้นกะทิเองควรใช้น้ำลอยดอกมะลิในการคั้นเพราะจะทำให้กะทิมีกลิ่นหอมมากขึ้น)
ใบเตย
น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลปึก1/4ถ้วย
น้ำตาลทราย11/4ถ้วย
เกลือป่น1/4ช้อนชา
วิธีทำเผือกกวน
1.ใส่เผือกลงไปในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือดพล่านใช้เวลานึ่งประมาณ30-35นาที(แล้วแต่ปริมาณของเผือก)
2.ใส่หัวกะทิและใบเตยลงไปในหม้อ นำไปต้มด้วยไฟกลางอ่อนรอจนเดือดพล่านและมีกลิ่นของใบเตยออกมาพอได้กลิ่นหอมแล้วตักใบเตยออก
3.ใส่น้ำตาลปี๊บและน้ำตาลทรายลงไปตามด้วยเกลือป่นคนให้เข้ากันแล้วลดเป็นไฟอ่อนคนจนกว่าทุกอย่างจะละลายเข้ากันเตรียมไว้
4.นำเผือกใส่กระทะ(แนะนำให้ใช้กระทะเทฟลอน)บดเผือกด้วยที่กดมันฝรั่งหรือช้อนส้อมให้ละเอียด(ยังไม่ต้องเปิดเตา)
5.พอเผือกละเอียดแล้วใส่ส่วนผสมกะทิลงไปคนให้เข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
6.เปิดเตาใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อนแล้วเริ่มกวนเผือกไปเรื่อยๆใช้เวลาประมาณ10-12นาทีหรือจนแห้งและล่อนไม่ติดกระทะและมีลักษณะเป็นก้อนและถ้าจะเอาไปทำเป็นไส้ขนมให้ใช้เวลากวนประมาณ7นาทีพอเพราะส่วนผสมค่อนข้างจะเหลวตัวหน่อย
7.เมื่อกวนไปเรื่อยๆจะสังเกตเห็นว่าเผือกจะเริ่มแห้งตัวลงแล้วอย่ากวนจนแข็งตัวเกินไปเพราะเวลาเย็นลงแล้วจะแข็งตัวมากขึ้น
8.นำเผือกกวนมาใส่ถาดหรือภาชนะที่ไม่ติด
9.ทิ้งเผือกกวนไว้ให้เย็นสนิทจากนั้นนำมาตัดเป็นชิ้นๆหรือกดเป็นลายต่างๆตามชอบพร้อมเสิร์ฟ
แจ่มว้าวกันเลยทีเดียวหลังจากกำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับเผือกสองลูกที่เหลือในตู้กับข้าวดีเหมือนฟ้าได้นำทางด้วยการส่งวิธีทำเผือกกวนมาให้แล้วจะปฏิเสธได้อย่างไรทำเสร็จแล้วเพื่อนๆใช้พิมพ์รูปการ์ตูนน่ารักๆกดออกมาเสิร์ฟเก๋ๆหรือจะเอาไปทำเป็นไส้ของขนมต่างๆก็ได้นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
Rin'sCookbook(#Rinscookbook) และ เฟซบุ๊กRinSilpachai
ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง : www.youtube.com
เมนูอื่นๆที่น่าสนใจ