วิธีทำขนมชั้นสูตรอร่อย หอมนุ่มเหนียว ใสปิ๊ง
ขนมชั้นเป็นขนมไทยโบราณและยังเป็นขนมมงคลที่ใช้ในงานมงคลต่างๆคนโบราณนิยมทำกันถึง9ชั้นเพราะถือเคล็ดเลข9ว่าจะได้เป็น“ศิริมงคลเจริญก้าวหน้ามีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้นเรื่อยๆ”แก่เจ้าภาพและชุดขนมชั้นยังจัดอยู่ในชุดของขนมแต่งงานในพิธีขันหมากเนื่องจากมีชื่อที่เป็นศิริมงคลเชื่อว่าทุกคนคงเคยรับประทานขนมชั้นมาแล้วด้วยสีสันน่ารับประทานมีรสหวานหอมอร่อยวันนี้จึงได้นำวิธีทำขนมชั้นสูตรอร่อยๆมาฝากครับเป็นสูตรของคุณนุชขนมชั้นวุ้นกุหลาบและเบเกอรี่ ที่ได้แบ่งปันสูตรดีๆนี้เป็นอีกสูตรขนมชั้นที่อร่อยหวานหอมกำลังดีและนุ่มเหนียว…ที่คนชอบขนมชั้นห้ามพลาดที่มีเคล็ดลับขั้นตอนการทำดังนี้ครับ
ส่วนผสม
**หมายเหตุ: สูตรนี้ได้50ชิ้นสำหรับพิมพ์ขนาด5ซม.
วิธีทำ
1.เริ่มจากเคี่ยวกะทิน้ำเชื่อมก่อนเลย…แบ่งกะทิ1/3ใส่หม้อไปตั้งไฟอ่อนๆเอาน้ำตาลทรายใส่และเอาใบเตยหั่นเป็นชิ้นใส่ลงไปพร้อมกันเลย…จากนั้นเคี่ยวเอาแค่พอน้ำตาลทรายละลายสักครู่ไม่ถึงกับดือด(จะได้กลิ่นหอมของใบเตยออกมา)แล้วยกลงรอให้เย็น
2.ผสมแป้งทั้ง3อย่างให้เข้ากันแล้วนำแป้งไปผสมกับกะทิทีละน้อยๆนวดให้เข้ากันดังนี้;
2.1)เอาแป้งทั้งสามอย่างผสมลงในหม้อ(หรือชามผสมก็ได้)คนให้เข้ากันและทำบ่อตรงกลาง
2.2)เอาน้ำกะทิที่เหลือค่อยๆใส่ลงไปสัก1-2ถ้วย
2.3)คนแป้งกับกะทิด้วยทัพพีคนแป้งไปเรื่อยๆ…พอแป้งแข็งจับเป็นก้อนเติมกะทิลงไปอีก1-2ถ้วย
2.4)ใส่กะทิเมื่อแป้งเริ่มหนืด…และคนต่อไปจนแป้งทั้งหมดละลาย…ทำจนกะทิหมด
2.5)จะได้แป้งละลายไม่เป็นก้อน
2.6)จากนั้นจึงเติมน้ำเชื่อมกะทิลงไปแล้วคนๆๆๆๆอีก5-10นาที
3.เอาซึ้งใส่น้ำประมาณ¾ของรังถึงตั้งไฟใช้ไฟแรง…ตั้งน้ำจนเดือด
4.จากนั้นนำถาดอลูมิเนียมสี่เหลี่ยมจตุรัสหรือพิมพ์ไปนึ่งในซึ้งน้ำเดือดให้ร้อนจัดประมาณ5นาที(เพื่อป้องกันขนมติดขอบพิมพ์)
5.แบ่งแป้งเป็น2ถ้วยโดยถ้วยที่1ผสมกับน้ำใบเตยและถ้วยที่2เป็นน้ำแป้งสีขาว…โดยสีในแป้งให้ผสมอ่อนกว่าสีที่ต้องการเพราะเวลานึ่งสุกสีของขนมจะเข้มขึ้นอีก
6.หยอดแป้งขนมลงถาดหรือพิมพ์ที่เตียมไว้ตักแป้งใส่แต่ละครั้งให้สลับสีกัน(ปริมาณเท่ากัน)ใช้เวลานึ่ง5-7นาทีต่อชั้น(ให้สังเกตุแป้งที่สุกจะมีลักษณะใสเป็นเงา)เมื่อแป้งสุกแล้วจึงค่อยหยอดชั้นต่อไปเรื่อยๆจนเต็มถาด…นึ่งจนสุก
·ถ้าใช้พิมพ์5ซม.ให้หยอด3-4ชั้นแต่ละชั้นใช้แป้งประมาณ¾ช้อนโต๊ะใช้เวลานึ่ง5-7นาทีต่อชั้น
7.เมื่อขนมสุกแล้ว...ให้ปิดฝารังถึงก่อนแล้วยกถาดขนมออกขนมที่ยกลงจากรังถึงให้วางพักบนตะแกรงพักจนเย็นสนิทซะก่อน…แล้วจึงค่อยแกะขนมออกจากถาดและหั่นแบ่งเป็นขนาดตามต้องการให้จุ่มมีดลงในน้ำร้อนแล้วกดลงบนขนมเป็นชิ้นๆ(เพื่อไม่ให้น่าขนมเละ)จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับการนึ่งขนมชั้นให้อร่อย
1.การตักแป้งหยอดแต่ละชั้นให้ตักแป้งใส่สลับสีกันส่วนชั้นสุดท้ายควรใส่เป็นสีเข้มครับดูมีสีสันน่ารับประทาน
2.การตักแป้งหยอดชั้นถัดไปจะต้องให้แป้งขนมชั้นล่างสุกซะก่อน…สังเกตุคือจะมีลักษณะใสเป็นเงาเพราะถ้าแป้งชั้นใดชั้นหนึ่งไม่สุกชั้นต่อๆไปก็จะนึ่งไม่สุกด้วยใช้เวลานึ่งประมาณ5-7นาทีต่อชั้น(ขึ้นอยู่กับปริมาณแป้งที่ใส่…ถ้าปริมาณแป้งมาก,ก็ใช้เวลานึ่งมากด้วย)แล้วจึงใส่แป้งชั้นต่อไป
3.ก่อนจะหยอดส่วนผสมแป้งทุกครั้งควรคนส่วนผสมให้เข้ากันก่อนเพราะแป้งมักจะนอนก้น
4.การนึ่งขนมในแต่ละชั้น…ทุกครั้งที่จะปิดฝารังถึง…ให้เอาผ้าสะอาดเช็ดหยดน้ำที่เกาะอยู่ในฝาซึ้งให้แห้งก่อนทุกครั้งเพื่อไม่ให้ละอองน้ำที่ฝารังถึงหยดลงบนหน้าขนม
5.ขนมชั้นที่ดีเวลาสุกแล้วจะมีหน้าขนมเรียบแป้งมีความเหนียวนุ่มและสามารถลอกเป็นชั้นๆได้มีรสชาติหอมหวานมันกำลังดี
เคล็ดลับความอร่อย
แป้งแต่ละชนิดที่เป็นส่วนผสมในขนมชั้นล้วนแต่มีความสำคัญแตกต่างกันไปดังนี้
·แป้งมันทำให้เนื้อขนมเนียนนุ่มเหนียวหนืดดูใสเป็นมัน
·แป้งท้าวยายม่อมทำให้เนื้อขนมเนียนเหนียวแข็งแต่จะใสน้อยกว่าแป้งมัน
·แป้งข้าวเจ้าทำให้เนื้อขนมแข็งและอยู่ตัว
·แป้งถั่วจะทำให้ขนมอยู่ตัวไม่เหนียวมากเกินไป
ส่วนผสม
- แป้งมันสำปะหลัง300กรัม
- แป้งท้าวยายม่อม40กรัม
- แป้งข้าวเจ้า40กรัม
- น้ำตาลทราย600กรัม(เป็นสูตรหวานกำลังดี)
- กะทิกล่อง(อร่อยดี)850กรัม(หรือ850มิลลิลิตร…คืออันเดียวกันมีค่าเทียบเท่ากัน)
- ใบเตย
- สีผสมอาหารตามชอบ/หรือน้ำคั้นจากดอกอัญชัน-ใบเตย(ใช้น้ำคั้นเท่าไหร่…ก็ลดปริมาณกะทิลงเป็นจำนวนเท่ากัน)
**หมายเหตุ: สูตรนี้ได้50ชิ้นสำหรับพิมพ์ขนาด5ซม.
วิธีทำ
2.1)เอาแป้งทั้งสามอย่างผสมลงในหม้อ(หรือชามผสมก็ได้)คนให้เข้ากันและทำบ่อตรงกลาง
2.2)เอาน้ำกะทิที่เหลือค่อยๆใส่ลงไปสัก1-2ถ้วย
2.3)คนแป้งกับกะทิด้วยทัพพีคนแป้งไปเรื่อยๆ…พอแป้งแข็งจับเป็นก้อนเติมกะทิลงไปอีก1-2ถ้วย
2.4)ใส่กะทิเมื่อแป้งเริ่มหนืด…และคนต่อไปจนแป้งทั้งหมดละลาย…ทำจนกะทิหมด
2.5)จะได้แป้งละลายไม่เป็นก้อน
2.6)จากนั้นจึงเติมน้ำเชื่อมกะทิลงไปแล้วคนๆๆๆๆอีก5-10นาที
3.เอาซึ้งใส่น้ำประมาณ¾ของรังถึงตั้งไฟใช้ไฟแรง…ตั้งน้ำจนเดือด
4.จากนั้นนำถาดอลูมิเนียมสี่เหลี่ยมจตุรัสหรือพิมพ์ไปนึ่งในซึ้งน้ำเดือดให้ร้อนจัดประมาณ5นาที(เพื่อป้องกันขนมติดขอบพิมพ์)
5.แบ่งแป้งเป็น2ถ้วยโดยถ้วยที่1ผสมกับน้ำใบเตยและถ้วยที่2เป็นน้ำแป้งสีขาว…โดยสีในแป้งให้ผสมอ่อนกว่าสีที่ต้องการเพราะเวลานึ่งสุกสีของขนมจะเข้มขึ้นอีก
6.หยอดแป้งขนมลงถาดหรือพิมพ์ที่เตียมไว้ตักแป้งใส่แต่ละครั้งให้สลับสีกัน(ปริมาณเท่ากัน)ใช้เวลานึ่ง5-7นาทีต่อชั้น(ให้สังเกตุแป้งที่สุกจะมีลักษณะใสเป็นเงา)เมื่อแป้งสุกแล้วจึงค่อยหยอดชั้นต่อไปเรื่อยๆจนเต็มถาด…นึ่งจนสุก
·ถ้าใช้พิมพ์5ซม.ให้หยอด3-4ชั้นแต่ละชั้นใช้แป้งประมาณ¾ช้อนโต๊ะใช้เวลานึ่ง5-7นาทีต่อชั้น
7.เมื่อขนมสุกแล้ว...ให้ปิดฝารังถึงก่อนแล้วยกถาดขนมออกขนมที่ยกลงจากรังถึงให้วางพักบนตะแกรงพักจนเย็นสนิทซะก่อน…แล้วจึงค่อยแกะขนมออกจากถาดและหั่นแบ่งเป็นขนาดตามต้องการให้จุ่มมีดลงในน้ำร้อนแล้วกดลงบนขนมเป็นชิ้นๆ(เพื่อไม่ให้น่าขนมเละ)จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับการนึ่งขนมชั้นให้อร่อย
1.การตักแป้งหยอดแต่ละชั้นให้ตักแป้งใส่สลับสีกันส่วนชั้นสุดท้ายควรใส่เป็นสีเข้มครับดูมีสีสันน่ารับประทาน
2.การตักแป้งหยอดชั้นถัดไปจะต้องให้แป้งขนมชั้นล่างสุกซะก่อน…สังเกตุคือจะมีลักษณะใสเป็นเงาเพราะถ้าแป้งชั้นใดชั้นหนึ่งไม่สุกชั้นต่อๆไปก็จะนึ่งไม่สุกด้วยใช้เวลานึ่งประมาณ5-7นาทีต่อชั้น(ขึ้นอยู่กับปริมาณแป้งที่ใส่…ถ้าปริมาณแป้งมาก,ก็ใช้เวลานึ่งมากด้วย)แล้วจึงใส่แป้งชั้นต่อไป
3.ก่อนจะหยอดส่วนผสมแป้งทุกครั้งควรคนส่วนผสมให้เข้ากันก่อนเพราะแป้งมักจะนอนก้น
4.การนึ่งขนมในแต่ละชั้น…ทุกครั้งที่จะปิดฝารังถึง…ให้เอาผ้าสะอาดเช็ดหยดน้ำที่เกาะอยู่ในฝาซึ้งให้แห้งก่อนทุกครั้งเพื่อไม่ให้ละอองน้ำที่ฝารังถึงหยดลงบนหน้าขนม
5.ขนมชั้นที่ดีเวลาสุกแล้วจะมีหน้าขนมเรียบแป้งมีความเหนียวนุ่มและสามารถลอกเป็นชั้นๆได้มีรสชาติหอมหวานมันกำลังดี
แป้งแต่ละชนิดที่เป็นส่วนผสมในขนมชั้นล้วนแต่มีความสำคัญแตกต่างกันไปดังนี้
·แป้งมันทำให้เนื้อขนมเนียนนุ่มเหนียวหนืดดูใสเป็นมัน
·แป้งท้าวยายม่อมทำให้เนื้อขนมเนียนเหนียวแข็งแต่จะใสน้อยกว่าแป้งมัน
·แป้งข้าวเจ้าทำให้เนื้อขนมแข็งและอยู่ตัว
·แป้งถั่วจะทำให้ขนมอยู่ตัวไม่เหนียวมากเกินไป
กะทิ เป็นส่วนของเหลวที่จำเป็นมากในขนมชั้นทำให้ขนมทั้งหอมและมัน
·ถ้าใส่มากจะทำให้ขนมเหลวลอกชั้นได้ยาก
·ถ้ากะทิน้อยขนมจะแข็งกระด้างไม่น่ารับประทาน
·ใช้กะทิที่เข้มข้นพอดีจะทำให้ขนมเป็นชั้นลอกออกจากกันได้ง่ายผิวดูเป็นมันเวลาหยิบไม่ติดมือ
น้ำตาล สิ่งเดียวที่จะให้รสชาติความหวานในขนมชั้น
ถ้าใส่น้ำตาลมากไปขนมจะหวานจัดแฉะลอกชั้นได้ยากความเหนียวของขนมก็จะน้อยลงด้วย
·ถ้าใส่มากจะทำให้ขนมเหลวลอกชั้นได้ยาก
·ถ้ากะทิน้อยขนมจะแข็งกระด้างไม่น่ารับประทาน
·ใช้กะทิที่เข้มข้นพอดีจะทำให้ขนมเป็นชั้นลอกออกจากกันได้ง่ายผิวดูเป็นมันเวลาหยิบไม่ติดมือ
น้ำตาล สิ่งเดียวที่จะให้รสชาติความหวานในขนมชั้น
ถ้าใส่น้ำตาลมากไปขนมจะหวานจัดแฉะลอกชั้นได้ยากความเหนียวของขนมก็จะน้อยลงด้วย
ที่มา https://www.zabwer.com
เมนูอื่นๆที่น่าสนใจ